Comments 0
บทความรถกอล์ฟ
1.วัตถุประสงค์ของการใช้งานรถกอล์ฟ
อันดับแรกในการเลือกซื้อรถกอล์ฟ คือ เราต้องดูวัตถุประสงค์ในการซื้อรถกอล์ฟ นอกจากรถกอล์ฟจะใช้ในสนามกอล์ฟแล้ว รถกอล์ฟยังสามารถนำมาใช้ในหลากหลายธุรกิจ โดยรถกอล์ฟสามารถจำแนกตามการใช้งานได้ 2 ประเภท คือ ประเภทที่ 1 รถกอล์ฟสำหรับใช้รับ-ส่งผู้โดยสาร ประเภทที่ 2 รถกอล์ฟสำหรับขนส่งสิ่งของ
2. เลือกขนาดของรถกอล์ฟให้เหมาะกับการใช้งาน
เราควรเลือกขนาดของรถกอล์ฟให้เหมาะกับการใช้งานเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานสูงสุด โดยรถกอล์ฟสามารถจำแนกตามขนาดได้ 3 แบบ
1. ขนาดเล็ก (2 ที่นั่ง, 2+2 ที่นั่ง) มีความคล่องตัว เหมาะสำหรับใช้ส่วนตัวภายในโครงการหมู่บ้าน ขับตรวจงาน และใช้ในสนามกอล์ฟ
2. ขนาดกลาง (4 ที่นั่ง, 4+2 ที่นั่ง) เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยม เนื่องจากมีความเอนกประสงค์ นั่งได้หลายคน ในบางรุ่นเบาะเสริมด้านหลังสามารถพับเปิดเป็นพื้นที่ใส่สัมภาระได้ เหมาะสำหรับกิจการอสังหาริมทรัพย์ หน่วยงานต่างๆ
3. ขนาดกลาง (6 ที่นั่ง,6+2 ที่นั่ง) สำหรับใช้รับ-ส่งผู้โดยสาร จำนวนมาก เหมาะสำหรับ โรงงาน สถานที่ท่องเที่ยว โรงพยาบาล
3. เลือกรถกอล์ฟให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ที่ใช้งาน
– พื้นที่ที่มีความลาดชันสูง (slope) ควรเลือกมอเตอร์ที่มีกำลังไฟฟ้าสูง แบตเตอรี่มีค่าแอมป์สูง (AMP)
มอเตอร์รถกอล์ฟจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท 1.มอเตอร์กระแสตรง(DC) 2.มอเตอร์กระแสสลับ(AC) โดยมอเตอร์กระแสสลับ(AC) ให้กำลังขับ แรงบิดที่สูงกว่า น้ำหนักน้อยกว่า เหมาะสำหรับการขับในพื้นที่ที่มีความลาดชันสูง แต่มอเตอร์กระแสสลับ(AC) จะมีราคาที่สูงกว่า มอเตอร์กระแสตรง(DC)
– สภาพพื้นผิวถนนขรุขระ ควรเลือกใช้รถกอล์ฟที่ช่วงล่างมีความนุ่มนวล ช่วงรถกอล์ฟจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท 1.โช๊คอัพสปริงแยกอิสระ 2.ช่วงล่างแบบแหนบ ช่วงล่างโช๊คอัพสปริงแยกอิสระเป็นช่วงล่างระบบเดียวกับรถยนต์ รองรับแรงกระแทก ลดแรงสั่นสะเทือนของรถได้ดี เหมาะกับสภาพพื้นผิวถนนขรุขระหรือสำหรับผู้ที่ต้องการความนิ่มนวลในการขับขี่
– ระยะทางในการใช้รถกอล์ฟ ระยะทางไกล ใช้งานหนัก ควรเลือกแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน แบตเตอรี่รถกอล์ฟมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ควรเลือกแบตเตอรี่ที่ใช้สำหรับรถกอล์ฟ โดยเฉพาะ หากใช้งระยะทางไกล ใช้งานหนัก ควรเลือกแบตเตอรี่ ที่มีค่าแอมป์ (Amp)สูง รถกอล์ฟจะวิ่งได้นานขึ้น (ต่อการชาร์ต 1 ครั้ง)
4. เลือกรถกอล์ฟที่ดีมีคุณภาพ
หากเราเลือกรถกอล์ฟที่ดีมีคุณภาพ ก็จะช่วยลดปัญหาที่จะตามมาในภายหลัง โดยการเลือกรถกอล์ฟควรพิจารณาดังนี้
1.ยี่ห้อ เลือกรถกอล์ฟที่มีความน่าเชื่อถือ โรงงานผลิตได้มาตรฐาน เช่นได้รับ ISO9001 ISO14001 มาตรฐานยุโรป CE
2.อะไหล่ รถกอล์ฟแต่ละยี่ห้อจะเลือกใช้อะไหล่ที่แตกต่างกัน อะไหล่หลักที่ควรพิจารณา คือ มอเตอร์ กล่องคอนโทรลที่ชาร์ต และแบตเตอรี่ ในบทความต่อไปผมจะลงในรายละเอียดของส่วนนี้ให้
5. เลือกตัวแทนจำหน่ายที่เชื่อถือได้
การเลือกตัวแทนจำหน่ายก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะตัวแทนจำหน่ายจะต้องดูแล ซ่อมบำรุง รถกอล์ฟ ตลอดอายุการใช้งาน โดยการเลือกตัวแทนจำหน่ายควรพิจารณาดังนี้
1. บริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ โดยสามารถดูได้จากบริษัทก่อตั้งมายาวนาน มีผลงานการจำหน่ายสินค้าจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่าบริษัทนั้นได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้า เนื่องการที่ดำเนินการมายาวนานทำให้มีประสบการณ์ ในการจำหน่ายรถกอล์ฟ การซ่อมบำรุง และการจัดเก็บอะไหล่ เพื่อดูแลซ่อมบำรุงให้กับลูกค้า
2. การรับประกันสินค้า ควรดูรายละเอียดในการรับประกันสินค้า ว่าครอบคลุมในส่วนใดบ้าง รวมไปถึงมีบริการซ่อมนอกสถานที่รวมอยู่ในการรับประกันด้วยหรือไม่ มิฉะนั้นอาจจะต้องเสียค่ารถเพื่อนำรถกอล์ฟเข้ามาซ่อมยังศูนย์บริการ
3. การบริการซ่อมบำรุง ควรเลือกตัวแทนจำหน่ายที่มีประสบการณ์ในการซ่อมบำรุงรถกอล์ฟ สามารถซ่อมนอกสถานที่ได้ มีจำนวนช่างเพียงพอ มีอะไหล่คอยให้บริการ ทั้งนี้หากเลือกตัวแทนจำหน่ายที่ไม่มีความพร้อมในการให้บริการท่านอาจจะต้องรอนานกว่าจะซ่อมเสร็จ
การเลือกรถกอล์ฟที่ดีมีคุณภาพ เหมาะสมกับการใช้งาน ก็จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการ และทำให้สามารถใช้รถกอล์ฟไฟฟ้าได้อย่างราบรื่น

Leave Comments