Comments 0
บทความรถกอล์ฟ

เลือกรถกอล์ฟ มือสองหรือรถใหม่อย่างไร? เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของคุณ

หากคุณเคยมีปัญหาตัดสินใจไม่ได้ระหว่างซื้อรถกอล์ฟมือสองหรือรถใหม่ หลายคนมีความคิดว่าควรเลือกซื้อรถกอล์ฟมือสองเพราะราคาถูกประหยัดงบประมาณ โดยที่ไม่ได้พิจารณาถึงปัจจัยด้านอื่น ปัญหาคือทำให้ได้รถกอล์ฟที่ไม่ตอบโจทย์การใช้งานหรือในบางครั้งอาจเสียค่าใช้จ่ายไปกับค่าซ่อมมากกว่าการซื้อรถกอล์ฟใหม่ แต่รถกอล์ฟมือสองก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ในบางกรณี

ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกรถซื้อรถกอล์ฟมือสองหรือรถใหม่ มีดังต่อไปนี้

1.ลักษณะการใช้งาน

– ใช้งานหนัก(ตลอดทั้งวัน มากกว่า 60 กม./วัน) โดยส่วนมากใช้ในกิจการ เช่น รับส่งผู้โดยสารในกิจการ หากใช้งานในลักษณะนี้ควรเลือกรถกอล์ฟใหม่ และเลือกแบตเตอรี่ที่มีค่า AMP สูงเพื่อให้สามารถใช้วิ่งได้ระยะทางจำนวนมากต่อการชาร์ต 1 ครั้ง ไม่แนะนำให้ใช้รถมือสองเพราะการใช้งานหนักไม่เหมาะกับรถมือสอง หากใช้ไปสักระยะอาจจะต้องมีการซ่อมบำรุงหรือเปลี่ยนอะไหล่ ใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 วัน ส่งผลทำให้ไม่มีรถกอล์ฟรับส่งผู้โดยสาร อีกทั้งการซ่อมบ่อยๆ มีค่าใช้จ่ายรวมแล้วอาจจะซื้อรถใหม่ได้เลย

– ใช้งานปานกลาง(ทุกวัน น้อยกว่า 60 กม./วัน) โดยส่วนมากใช้ในโรงแรม รีสอร์ทและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หากเป็นโครงการที่ใช้รถกอล์ฟในระยะยาว ควรเลือกรถกอล์ฟใหม่ เนื่องการในระยะยาวรถกอล์ฟใหม่ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาต่ำกว่ารถกอล์ฟมือสอง หมดปัญหาเรื่องการรถกอล์ฟเสีย ทำให้ไม่มีรถกอล์ฟใช้งาน รถกอล์ฟใหม่ซ่อมบำรุงและเปลี่ยนอะไหล่โดยเฉลี่ย ตั้งแต่ปีที่ 3 เป็นต้นไป โดยส่วนรถกอล์ฟมือสอง(Recondition) อะไหล่ไม่ได้ถูกเปลี่ยนมาทุกชิ้น ใช้ไปสักระยะอาจจะต้องมีการซ่อมบำรุงหรือเปลี่ยนอะไหล่ ในระยะยาวหากเปลี่ยนอะไหล่จะต้องใช้ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ 10,000 บาท ต่อปี(ไม่รวมค่าบริการ) แต่ถ้าหากเป็นโครงการที่ใช้รถกอล์ฟในระยะสั่น ควรเลือกรถกอล์ฟมือสอง เนื่องการราคาขายต่อของรถกอล์ฟมือสองราคาตกน้อยกว่ารถกอล์ฟใหม่ แต่ทั้งนี้อาจจะต้องสำรองเงินเพื่อการซ่อมบำรุงและเปลี่ยนอะไหล่ สำหรับรถกอล์ฟมือสอง

– ใช้งานน้อย(เป็นบางครั้ง น้อยกว่า 20 กม./สัปดาห์) ใช้ส่วนตัวขับในโครงการหมู่บ้าน  ควรเลือกรถกอล์ฟมือสอง แต่ควรเลือกรถกอล์ฟมือสอง ที่อยู่ในสภาพดี ปรับสภาพใหม่Reconditon มีการรับประกันสินค้า มีอะไหล่ให้บริการตลอดอายุการใช้งานและเลือกซื้อกับร้านที่มีบริการหลังการขาย แนะนำรถกอล์ฟมือสองที่นำเข้าจากต่างประเทศโดยส่วนมากจะอยู่สภาพดีและมีคุณภาพ (สำหรับในแต่ละยี่ห้อ ก็จะมีรุ่น ที่มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน จะขอมาอธิบายในบทความต่อไป)

2.สถานที่ที่ใช้งานรถกอล์ฟ

– อยู่ห่างไกลจากศูนย์บริการ หากสถานที่ใช้งานอยู่ห่างไกลจากศูนย์บริการ ควรเลือกใช้รถกอล์ฟใหม่ เพราะการที่ให้ช่างจากศูนย์บริการมาซ่อมบำรุงและเปลี่ยนอะไหล่ ราคาค่าบริการจะขึ้นอยู่กับระยะทาง ระยะทางไกลจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงและใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 วัน หากเป็นรถมือสองที่ต้องซ่อมบำรุงบ่อย ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงและค่าอะไหล่ รวมแล้วสามารถซื้อรถใหม่ได้เลยทีเดียว

– อยู่ใกล้ศูนย์บริการ หากสถานที่ใช้งานอยู่ไม่ไกลจากศูนย์บริการ อยู่ในจังหวัดที่มีศูนย์บริการ ก็สามารถที่จะเลือกใช้รถมือสองได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้าซ่อมบำรุง

3.ภาพลักษณ์ขององค์กร

– รถกอล์ฟใหม่ ให้ภาพลักษณ์ที่ดีกับองค์กร อีกทั้งสมรรถนะการขับขี่ รวมถึงช่วงล่างที่ดี เหมาะสำหรับรับลูกค้าคนสำคัญหรือผู้บริหาร หมดปัญหาเรื่องการเสียระหว่างการใช้งานซึ่งเป็นการทำลายภาพลักษณ์ที่ดี

– รถกอล์ฟมือสอง หากปรับสภาพมาอย่างดีก็ส่งเสริมให้ภาพลักษณ์ขององค์กรดูดีเช่นกัน แต่เนื่องการเป็นการปรับสภาพใหม่สีที่ไม่ได้ทำมาจากโรงงาน ความทนทานจะไม่เท่ารถกอล์ฟใหม่ ควรหมั่นปรับสภาพและดูแลรักษาซ่อมบำรุงให้อยู่ในสภาพที่ดี พร้อมใช้งานตลอดเวลา และป้องกันการเสียในขณะที่ใช้งาน

สุดท้ายนี้แนะนำให้ท่านเลือกรถกอล์ฟตามความเหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อให้ท่านได้มีรถกอล์ฟที่มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับการใช้งาน และไม่มีปัญหาในการใช้งานที่จะตามมาในภายหลัง ทางเราหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจเลือกรถกอล์ฟของท่านไม่มากก็น้อย

Leave Comments